"หนูมีเรื่องไม่พอใจ"
นิทานจากชุด "Thinking Skills ฉลาดคิดรอบด้าน"
เขียนโดย คุณชินสุเกะ โยชิทาเกะ
เป็นนิทานอีกเรื่องที่นอกจากได้ความสนุก แฝงความตลกขำขัน แต่เหนือสิ่งใดคือ การเปิดช่องว่าง
ให้เด็กๆ ได้คิดตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่เด็ก ๆ มักไม่พอใจผู้ใหญ่‼
.
ขอนำสิ่งที่คุณหมอประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ได้เขียนไว้ใน “คำตาม” มาแชร์ให้คุณพ่อคุณแม่ทุกคนได้อ่านกันค่ะ
.
หนังสือเล่มนี้อ่านแล้วขำไปกับวิธีให้เหตุผลของคุณพ่อซึ่งมีมากมายสารพัดจนไม่น่าเชื่อ และเราก็ได้แต่คาดหวังว่าเราน่าจะมีความสามารถสรรหาคำตอบมาได้มากมายเพียงนั้น
.
ในขณะเดียวกันหลายท่านอาจจะกังวลกับความไม่มีเหตุผลของคุณพ่อ ความไม่มีเหตุผลอย่างมากมายของคุณพ่อเป็นเพียงบริบทของหนังสือที่ต้องการให้อ่านสนุกมากกว่าอย่างอื่น
.
หนังสือเล่มนี้ชวนให้เราพูดคุยกันเรื่องเหตุผลและที่มาของเหตุผล ข้อความสั้น ๆ ที่อยากให้ได้คือ magic มาก่อน logic แปลว่า เวทมนตร์มาก่อนเหตุผล ขยายความว่า ความไม่มีเหตุผลย่อมมาก่อนเหตุผลเสมอ
.
แทนที่เราจะไปเพ่งเล็งที่ความไม่มีเหตุผลของคุณพ่อ เราชวนมองที่พฤติกรรมการตอบคำถามของคุณพ่อที่ไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงความผิดถูก เพราะที่สำคัญกว่าความผิดถูกคือ ความใส่ใจ ความเต็มใจ ไปจนถึงความไม่แสดงทีท่าเบื่อหน่าย หรือรำคาญ หรือหงุดหงิดเมื่อลูกถามไม่เลิก คุณพ่อใช้วิธีแสดงความเต็มใจที่จะตอบ ไม่เบื่อที่จะตอบ และตอบอะไรก็ได้ให้สนุกสนานเป็นที่ตั้ง
.
วิธีตอบของคุณพ่อจะเป็นขั้นตอนการสร้างระบบเหตุผลขึ้นในสมองของลูก ซึ่งประกอบด้วย 3 ขั้นตอน คือ
.
ขั้นที่หนึ่ง อยู่กับเวทมนตร์ให้พอ ขั้นที่สอง สร้างแม่พิมพ์ของระบบเหตุผล และขั้นที่สามคือ ใส่เนื้อหาของเหตุและเนื้อหาของผลตามที่ควรจะเป็น
.
#ขั้นที่หนึ่ง อยู่กับเวทมนตร์ให้พอ เปรียบเสมือนการสะสมต้นทุนของวัตถุดิบนานาประการ ทำให้คลังสมองและคลังคำของเด็กๆเต็มไปด้วยสรรพสิ่งและเรื่องราว จะเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้ก็ไม่สำคัญ เมื่อเด็กสะสมวัตถุดิบมากพอจนล้นจะอย่างไรสมองของเขาก็ต้องจัดระเบียบคลังคำไม่ช้าก็เร็ว
.
#ขั้นที่สอง การจัดระเบียบคลังคำหรือคลังของสรรพสิ่งขั้นต้น คือการสร้างแม่พิมพ์ของเหตุและแม่พิมพ์ของผล แล้วนำแม่พิมพ์ทั้งสองมาวางต่อกัน คุณพ่ออาจจะเอาแพะใส่ช่องเหตุแล้วเอาแกะใส่ช่องผล จากนั้นวางคู่กันให้ลูกดู ไม่สำคัญว่าแพะกับแกะจะไปด้วยกันได้หรือเปล่า เพราะนี่เป็นเพียงขั้นตอนของการสร้างแม่พิมพ์เท่านั้น
.
เมื่อแม่พิมพ์แข็งแรงตามพัฒนาการ โดยทั่วไปเด็กจะมีอายุประมาณ 8 ขวบ นั่นคือการเตรียมความพร้อมทุกระบบเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นจึงมาถึงขั้นที่สาม เราหรือการศึกษาเริ่มใส่เหตุและผลตามที่ควรจะเป็น อย่างไรก็ตาม อย่าลืมที่จะเปิดทางให้แก่ความสามารถคิดยืดหยุ่น (cognitive flexibility) ที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงเหตุและผลใหม่ๆได้เสมอเมื่อมีหลักฐานใหม่ ๆเกิดขึ้น ✍️
หนังสือภาพสำหรับเด็กวัย 7 ขวบขึ้นไป ส่งเสริมการคิดอย่างสร้างสรรค์ สนุกกับการจินตนาการ และการคิด เจรจาอย่างมีเหตุผล ทั้งยังสนุกกับการอ่านภาพและรายละเอียด เปิดจินตนาการและความคิดด้วยคำถามมากมาย