Toxic Parents มูฟออนชีวิต ถอนพิษพ่อแม่เผด็จการ

Toxic Parents มูฟออนชีวิต ถอนพิษพ่อแม่เผด็จการ
Toxic Parents มูฟออนชีวิต ถอนพิษพ่อแม่เผด็จการToxic Parents มูฟออนชีวิต ถอนพิษพ่อแม่เผด็จการToxic Parents มูฟออนชีวิต ถอนพิษพ่อแม่เผด็จการ
รหัสสินค้า 9786168255742
หมวดหมู่ หนังสือสำหรับพ่อ แม่ ครู
ราคาปกติ 420.00 บาท
ลดเหลือ 357.00 บาท
บาร์โค้ด 9786168255742
ยี่ห้อ Sandclock Books
สำนักพิมพ์ Sandclock Books
สภาพ สินค้าใหม่
ลงสินค้า 18 ก.ค. 2566
อัพเดทล่าสุด 10 พ.ย. 2566
คงเหลือ 0 ชิ้น
ขออภัย สินค้าหมด
หนังสือรับรองบริษัท
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay
จำนวน 360 หน้า
ขนาด 14.3 x 21 cm.
ผู้เขียน ดร.ซูซาน ฟอร์เวิร์ด, เครก บัก
แปล เชิญพร คงมา

คำนิยม โดยนายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

ประมาณด้วยสายตา อย่างน้อยประมาณเศษหนึ่งส่วนสี่ผู้ป่วยที่มาหาผมมีปัญหากับพ่อแม่
ส่วนใหญ่พ่อแม่มิได้ร้ายกาจถึงขั้นที่เรียกว่าพ่อแม่เป็นพิษแต่ก็มิใช่น้อย พวกเขามีภูเขาสองลูกกดทับอยู่บนบ่า
ภูเขาสองลูกนั้นคือพ่อและแม่

บ้านเราอาจจะไม่ต้องถึงกับมีพ่อแม่เป็นพิษ หมายถึงเป็นพ่อแม่ที่มีพยาธิสภาพทางจิตจริงๆ พ่อแม่เช่นนี้มีลูกเพื่อรับใช้ตัวเองโดยแท้ ไม่ยินยอมปล่อยลูกไปไหนตลอดชีวิต ไม่นับว่าจะสูบเงินและชีวิตจากลูกไม่เหลือหรอ
ปัญหาของบ้านเราเป็นเพียงปัญหาทางวัฒนธรรมเสียมากกว่ากล่าวคือเป็นลูกต้องกตัญญูโดยไม่มีเงื่อนไข ไม่มีข้ออ้าง และไม่มีข้อยกเว้น ไม่มีทางเลือก ไม่มีหนทางอื่น และไม่มีอ๊อปชั่นอื่น ได้เงินมาต้องให้แม่
มีเวลาต้องมาหาแม่ แม่ใหญ่กว่าเมียและพ่อใหญ่กว่าผัวชั่วนาตาปี ทั้งหมดนี้พ่อแม่อาจจะไม่ถึงกับมีพยาธิสภาพทางจิตอะไร แค่ว่า “ลูกที่ดีควรทำแบบนั้น”
ตามด้วย “เอาเงินมาให้แม่นี่เพื่อลูกเองนะ ลูกจะได้มีความสุขความเจริญ”

พ่อแม่ที่เป็นพิษจริงๆควบคุมลูกด้วยวิธีการต่างๆ ส่วนใหญ่จะว่าที่ทำไปก็เพื่อลูก เพราะรักลูกมากถึงได้ทำ แม่มีก็แค่ลูกเท่านั้น หรือ “ไปเถอะ จะเกิดอะไรกับแม่ก็อย่าสนใจ” เมื่อทำไปนานเข้าลูกที่ว่าก็จะไม่มี “ตัวตน” ไปเสีย เพราะตัวตนของตนเป็นของพ่อแม่ไปแล้ว
หนังสือเล่มนี้พูดถึงพ่อแม่เป็นพิษหลากหลายชนิด มิได้เขียนเป็นงานวิชาการเคร่งครัดแต่เขียนเป็นเรื่องเล่าถึงผู้ป่วยประเภทต่างๆ หากค่อยๆอ่านอย่างตั้งใจจะเข้าใจได้ถึงความแตกต่างของพ่อแม่แต่ละชนิดว่าพวกท่านมัดลูกด้วยวิธีไหน
พ่อแม่เป็นพิษทุกชนิดทำเหมือนกันอยู่เรื่องหนึ่งนั่นคือทำให้ลูกรู้สึกผิด “ลูกคือผู้รับผิดชอบเรื่องที่เกิดแก่พ่อแม่” โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านอารมณ์ กล่าวคือความสุขความทุกข์ของพ่อแม่เป็นความรับผิดชอบของลูก
พ่อแม่มีความทุกข์เพราะลูกทำ ลูกให้เงินน้อย ลูกไม่มาหา ลูกเห็นคู่สมรสสำคัญกว่าพ่อแม่ เหล่านี้เป็นฝีมือลูกทั้งนั้น
มากไปกว่านี้คือสามารถโดดเดี่ยวลูกได้ด้วยหากทำนอกคอก เช่น ถ้าลูกคนหนึ่งไปเที่ยวกับครอบครัวของตัวเองแทนที่จะกลับมาหาแม่ ไม่เพียงแม่จะร้องไห้ให้ดู แต่ลูกคนนั้นจะถูกพี่น้องท้องเดียวกันรุมประณามได้อีกด้วย

“แม่แก่แล้วนะ! คิดว่าแม่จะได้ฉลองอีกกี่คริสตมาส!”
พ่อแม่ที่ควบคุมลูกมักอ้างว่าเพื่อป้องกันลูกให้พ้นจากอันตรายเพราะโลกมีอันตราย ส่วนพ่อแม่ที่ชอบล้อเลียนลูกมักพูดว่าเพื่อให้ลูกเข้มแข็งเพราะโลกภายนอกนั้นน่ากลัว
ครั้นลูกพยายามดิ้นรนด้วยการพูดว่า “ลูกโตแล้วนะ” แม่จะเสียใจให้ดู
แล้วถ้าลูกตัดพ้อว่า “ทำไมพ่อชอบล้อเลียนผมอยู่เรื่อย” พ่อจะพูดว่า “ล้อเล่นเฉยๆเท่านั้นเอง” จะเห็นว่าความผิดกลับมาที่ลูกเสมอไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

ปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อลูกเองเชื่อเช่นนั้นจริงๆ “โลกอันตรายและน่ากลัวเกินกว่าที่เราจะอยู่ได้โดยปราศจากพ่อแม่” “ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของเรา” ตามด้วย “ลูกที่ดีต้องไม่ทำแบบนั้น”
“ที่สุดแห่งการหักหลังคือการล่วงละเมิดทางเพศ” คือที่สุดของพ่อแม่เป็นพิษ
ทำร้ายลูกด้วยการไม่ใส่ใจ ล้อเลียน ใช้วาจาหยามเหยียดหรือทำโทษทางร่างกายรุนแรง เหล่านี้ไม่มีอะไรร้ายแรงเท่าการล่วงละเมิดทางเพศซึ่งจะอยู่เหนือเหตุผลและคำอธิบายทั้งปวง
เด็กๆทุกคนจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครและไม่พูดจาให้ร้ายพ่อแม่เพราะที่พวกเขากลัวที่สุดคือตัวเองเป็นต้นเหตุให้ครอบครัวแตกสลาย ถ้าพ่อแม่ต้องแยกจากกันความผิดเกิดจากเขาแต่ผู้เดียวอีกเช่นกัน
ไม่มีเด็กคนไหนยอมรับได้ง่ายๆว่าพ่อแม่ของตนเป็นคนเลว เรื่องจะยุ่งยากมากขึ้นไปอีกเมื่อเด็กบางคนพึงพอใจสัมผัสที่เกิดขึ้น ถึงตอนนี้ลูกสาวอาจจะคิดว่าตนเองเป็นผู้หญิงอีกคนที่มาแย่งพ่อไปจากแม่
หนังสือเล่มนี้ยกตัวอย่างคำพูดของพ่อแม่เป็นร้อยๆที่ใช้มัดลูก ลองอ่านดูจะพบสักคำสองคำกันทุกคนเป็นแน่ ดังที่บอกว่าบ้านเราเป็นเรื่องทางวัฒนธรรมเสียมากจึงไม่น่าแปลกใจอะไรที่ลูกหลายบ้านจะได้ยินคำพูดแบบนี้เสมอๆทั้งที่พ่อแม่อาจจะมิได้ร้ายกาจมาก แต่นั่นแหละปัญหา

ในเมื่อพวกท่านมิได้ร้ายกาจมากเพราะอะไรแต่ละคนที่มาหาจิตแพทย์จึงดิ้นไม่หลุดและรู้สึกผิดอยู่ตลอดเวลา
แทบทุกคนนั่งลงแล้วร้องไห้เมื่อพบกันครั้งแรก
หนังสือเล่มนี้ยังมีดีมากกว่าถ้อยคำของพ่อแม่ที่ใช้มัดลูกอีก ตอนกลางเล่มท่านจะพบแบบทดสอบว่าตนเองเป็นลูกประเภทไหน มีความเชื่อเรื่องพ่อแม่อะไรบ้าง

โดยทั่วไปผมเป็นคนไม่ชอบแบบทดสอบเพราะแบบทดสอบมักมีข้อเสียตรงที่ขีดเส้นบางเส้นชัดเจนเกิน แต่แบบทดสอบในหนังสือเล่มนี้น่าสนใจจริง ผู้เขียนหนังสือได้แบ่งแบบทดสอบออกเป็นหมวดๆแล้วแสดงความสัมพันธ์ของแต่ละหมวดอย่างน่าทึ่ง
มีหลายบทในตอนท้ายที่สาธิตให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความแตกต่างของวิธีพูดของเราเอง บ่อยครั้งที่พ่อแม่ขอให้เราทำเรื่องที่เราลำบากใจ แล้วบ่อยครั้งในบ่อยครั้งนั้นเองที่คู่สมรสของเราไม่อยากให้เราทำ ซึ่งถ้าเราฝืนทำได้มีปากเสียงกันกับคู่สมรสอย่างแน่นอน
เช่น พ่อแม่ขอย้ายมาอยู่ด้วย เป็นต้น

“ทะเลาะกับสามียังง่ายกว่าทะเลาะกับแม่เสียอีก” ผู้ป่วยคนหนึ่งว่า
เห็นไหมครับ ภูเขาสองลูกนั้นหนักเพียงใด หนักมากเสียจนเราไม่มีวันยกออกจากบ่าวางบนพื้นได้ง่ายๆ
หนังสือเล่มนี้มิได้บ่นหรือเป็นตัวแทนให้เราบ่น ตัวอย่างเรื่องพ่อแม่ขอย้ายมาอยู่ด้วยนี้มีทางออกจริงๆ ผู้บำบัดในหนังสือเล่มนี้ได้สาธิตให้เห็นว่าคนเราส่วนใหญ่จะพูดกับพ่อแม่แบบไหนในสถานการณ์เช่นนี้แล้วเมื่อพูดออกไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น เพราะอะไร
คราวนี้ลองเปลี่ยนใหม่หัดพูดอีกแบบหนึ่งซึ่งเมื่อพูดออกไปแล้ว จะมีความหมายว่าอะไร แล้วจะเกิดอะไร เป็นเรื่องฝึกได้และทำได้

วิธีการชำระเงิน

  • ชำระเงินผ่านการโอนเงินตามบัญชีธนาคารด้านล่าง พร้อมเก็บหลักฐานการโอน(ถ่ายภาพสลิป หรือ ภาพขั้นตอนยืนยันการโอนเงินกรณีโอนทางอินเตอร์เน็ต) เพื่อนำมาแนบส่งตอนแจ้งชำระเงินด้วยคะ
บมจ. ธนาคารกสิกรไทย สาขาบางมด ออมทรัพย์

นโยบายการเปลี่ยนหรือคืนสินค้า

กรณีที่สินค้าเสียหาย/ชำรุด ลูกค้าสามารถแจ้งการเปลี่ยน/คืนสินค้าได้ ภายใน 7 วันนับจากได้รับสินค้า โดยถ่ายภาพสินค้าและแจ้งเลขที่ออเดอร์มาทาง inbox : m.me/saanaksornbook ทางร้านจะพิจารณาการส่งสินค้าไปให้ใหม่และการส่งคืนสินค้าชำรุดเป็นกรณีๆ ไป

MEMBER

CONTACT US

028707512-3 ต่อ140
พูดคุย-สอบถาม